นรก


มีคำถามจากหลายๆท่านถามเกี่ยวกับนรกบ่อยครั้ง แต่รายละเอียดของนรกจริงๆนั้น มีมากมายจนไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด ทั้งนี้ กระผมจึงได้ค้นคว้า และจะมาอธิบายสรุปข้อมูลเกี่ยวกับนรก
ให้ได้ศึกษากันนะครับ...




ตายแล้วไปไหน ?


เมื่อมนุษย์ตายลง ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่จะมารับตัวไปที่ยมโลกทุกรายเสมอไป ผู้ใดทำบุญหรือบาปไว้มาก กำลังบุญหรือบาปนั้น จะดึงดูดไปสู่ภพภูมิที่เหมาะสมเอง แต่ถ้าบุญก็ทำบาปก็สร้างปะปนกันไป ในขณะใกล้ตายจิตไม่ถึงกับเศร้าหมองแต่ก็ไม่ผ่องใส หรือตายด้วยอุบัติเหตุไม่ทันได้รู้ตัว กายละเอียดจะหลุดออกมายืนมองเห็นตัวเอง
พูดกับใครก็ไม่มีใครพูดด้วย เมื่อนั้นจึงรู้ว่าตัวเองตายแล้ว

ในระหว่าง 7 วันนั้น ถ้ากายละเอียดของผู้ตายนึกถึงบุญที่ตนเคยทำไว้ได้ ใจก็จะผ่องใสได้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่เป็นสุคติ แต่ถ้านึกถึงบุญไม่ออก พอครบ 7 วันก็จะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นกุมภัณฑ์ นุ่งผ้าหยักรั้งสีแดง ถือโซ่ตรวนและหอกแหลมมารับเอาตัวไป ถ้ากายละเอียดขัดขืน กุมภัณฑ์ซึ่งมีกำลังมากกว่า จะทุบตีลากจูง พาเดินไปไม่กี่ก้าวก็ผ่านอุโมงค์ทะลุมิติไปถึงหน้าประตูยมโลก ไปที่ลานตัดสิน ซึ่งมีสภาพมืด บรรยากาศทึมๆ ร้อนอบอ้าวมาก แต่ก็มืดและร้อนน้อยกว่าในอุสสทนรกและในมหานรก หลายล้านเท่า ทั้งสองข้างทางมีเจ้าหน้าที่ยืนเรียงราย ถืออาวุธสลับกับประทีปโคมไฟที่ร้อนแรง 
น่าสะพรึงกลัว หดหู่ และน่าสยดสยอง
พอไปถึงโรงพิพากษา ก็ต้องนั่งคุกเข่าต่อหน้าพญายมราช เพื่อทำการไต่ถาม ช่วยให้นึกถึงบุญ และถ้านึกถึงบุญที่เคยทำไว้ได้ เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปเกิดใหม่ในสุคติภูมิ แต่ถ้านึกถึงบุญไม่ออกและมีบาปที่ตนเองเคยทำไว้ ก็ต้องถูกส่งไปเกิดในทุคติภูมิ เป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย หรือไปรับโทษทัณฑ์ทรมานในขุมนรกของยมโลก โดยมีกุมภัณฑ์ที่มีหน้าที่ลงทัณฑ์ทรมาน มีร่างกายสูงใหญ่ สูงยิ่งกว่าต้นยางนาสูงๆ สีผิวดำแดง ดำอมเขียว หรือดำอมม่วง
น่ากลัวมาก แต่ยังดูดีกว่านายนิรยบาลในมหานรก กุมภัณฑ์เหล่านี้เป็นยักษ์ ชนิดหนึ่งอยู่ใน   สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา หมุนเวียน กันมาทำหน้าที่เป็นช่วงๆ..




_________________________________________________________________________________



ยมโลก อุสสทนรก มหานรก 


ผังเมืองนรก



นรกเป็นดินแดนหนึ่งใน กามภูมิ หมายถึง
ดินแดนที่ยังข้องเกี่ยวอยู่ด้วยกาม ซึ่งแบ่งออกเป็น

: ทุกคติภูมิ ว่าด้วยเรื่อง นรก
: สุคติภูมิ    ว่าด้วยเรื่อง มนุสสภูมิ และ สวรรค์ภูมิ


ทุกคติภูมิแบ่งเป็นได้ดังนี้

........อบายภูมิ ๔ ภูมิชั้นต่ำ ที่อยู่ของสัตว์นรก คือ เปตภูมิ อสุรกายภูมิ นรกภูมิ ดิรัจฉานภูมิ

........นรกภูมินั้น เฉพาะนรกใหญ่มี ๘ ขุม (ขุม มาจากภาษาเขมร แปลว่า หลุม) อยู่ซ้อนกันเป็นชั้นลงไป๘ หลุม เรียงจากสูงไปหาต่ำ คือ สัญชีพนรก กาลสูตนรก สังหากนรก โรรุพนรก ตาปนรก มหาตาปนรก มหาอวิจีนรก สัตว์นรกจะมีอายุยืนนับไม่ถ้วนแค่ขุมแรกก็อายุ ( ๕๐๐ปีนรก ) ถ้าถามว่านานแค่ไหน ต้องตอบว่า
( ๑ วัน๑ คืนนรก เท่ากับ ๙ ล้านปีเมืองมนุษย์ )
จากนั้นก็จะยาวเป็นเท่าทวีคูณทุกขุมไป

มีคำพูดกันว่า ( ๑๐๐ ปีเมืองมนุษย์เท่ากับ ๑ วันเมืองสวรรค์ ๑๐๐ปี เมืองสวรรค์ เท่ากับ ๑ วันเมืองนรก ) ลองเทียบดูเอาก็แล้วกันครับ



.....ดูที่ชื่อนรกอเวจี วิจิ แปลว่าคลื่น อเวจีแปลว่าไม่มีคลื่น หมายถึงไม่มีที่จบสิ้น ( คือยาวนานมากๆ ) สัตว์นรกในมหาอเวจีนรกต้องทนอยู่ ๑ มหากัลป์ นานเท่ากับที่เวลา ๑๐๐ ปีครั้งหนึ่งให้เอาผ้าอ่อนบางดังควันมากวาดภูเขาสูง ๑ โยชน์ กว้าง ๓ โยชน์ ทีหนึ่ง เมื่อไหร่เขานั้นเรียบเสมอพื้นดินก็คือ ๑ มหากัลป์

นรกใหญ่ ๘ ขุมนี้มีกำแพงเหล็กมีไฟแดงลุกตลอด ๔ ด้าน บวกบนล่าง ยาวด้านละ ๑๐๐๐โยชน์ หนา ๙โยชน์ แต่ละด้านมีนรกบ่าวด้านละ ๔ ขุม เบ็ดเสร็จรวมแล้วจึงมีมีนรก ๑๓๖ ขุม ไม่รวมนรกเล็กนรกน้อยอีก ที่คุ้นหูคนไทยก็โลหะสิมพลีนรก
ลงโทษคนที่เป็นชู้กับเมียเขา โลหะกุมภีนรก
มีหม้อทองแดงน้ำทองแดง ลงโทษคนตีพระ

ผู้ที่จะมาเป็นยมบาลคือคนที่ทำบุญบาปพอ ๆ กัน ตายไปเป็นยมบาล ๑๕ วัน ตกนรก ๑๕ วัน กว่าจะสิ้นกรรม



......นอกจากนี้ยังมีนรกพิเศษอีกคือ นรกโลกันต์ ตั้งอยู่ระหว่างภพทั้งสาม สำหรับคนที่ทำสงฆเภท
คือทำให้สงฆ์ทะเลาะกัน


จะเห็นได้ว่า นรกขุมนึงนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด เทียบได้กับจังหวัดหรือประเทศนึงเลยทีเดียว และถ้าประมาณพื้นที่ทั้งหมดของนรกแล้ว จะมีขนาดเทียบเท่ากับโลกหรือกว้างใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ฉะนั้น อย่าคิดว่านรกมีพื้นที่รองรับจำกัดนะครับ
ยังมีเหลือรองรับให้คนทำชั่วอีกเพียบ.. 



________________________________________________________________________________



ประเภทของนรก >



1) มหานรก เป็นนรกขุมใหญ่ มี 8 ขุม อยู่ลึกไปตามลำดับ จากขุมที่1 ซึ่งมีขนาดเล็กไปถึงขุมที่ 8 ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด


สภาพของ มหานรก มีความร้อนแรงมาก ไฟในมหานรกนั้นร้อนแรงกว่าในอุสสทนรกและยมโลกเป็นล้านๆเท่า ไฟในยมโลกยังมีสีสันคล้ายกับไฟในเมืองมนุษย์ คือ พอมองออก แต่ไฟในมหานรกนั้นมีเปลวสีดำ ภพของมหานรกก็ใหญ่กว่า อายุของสัตว์นรกก็ยืนยาวกว่า
หากเปรียบเทียบกันแล้ว อุสสทนรกกับยมโลก เป็นสถานที่ที่มนุษย์ไปรับผลกรรมที่เป็นเศษกรรมเท่านั้น แต่ในมหานรกนั้น คือ ส่วนเต็มๆของกรรม

ผู้ที่ตกไปอยู่ในมหานรก คือ อดีตมนุษย์หรือสัตว์ที่ทำกรรมชั่วหนักๆ หรือทำกรรมชั่วอยู่เป็นประจำ เมื่อตายแล้ว กระแสบาปจะดึงดูดกายละเอียดลงไปเกิดในมหานรกทันที ไม่ได้มีใครมารับตัวเหมือนไปยมโลก สัตว์นรกในมหานรกจะถูกลงทัณฑ์ที่แตกต่างหลากหลาย ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส มีนายนิรยบาลหรือนางนิรยบาล ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ไม่มีชีวิตจิตใจ เกิดขึ้นด้วยอำนาจของบาปอกุศล ร่างกายใหญ่โตมโหฬารสูงใหญ่ปานภูเขา มีสีผิวดำมืดเหมือนกับถ่าน คอยลงทัณฑ์ทรมานสัตว์นรก โดยไม่มีเวลาหยุดพักแม้สักวินาทีเดียว
จนสิ้นอายุขัยของสัตว์นรกนั้น

กว่าจะพ้นจากมหานรกได้ ก็ยาวนานมาก ตั้งแต่ 1,620,000ล้านปีมนุษย์ จนถึง 1อันตรกัป* เลยทีเดียว ใช้กรรมในมหานรกเสร็จแล้ว ต้องไปรับ ผลกรรมต่อที่อุสสทนรกขุมบริวารอีก




 ________________________________________________________________________________



2) อุสสทนรก เป็นนรกขุมบริวาร อยู่รอบๆมหานรกขุมใหญ่ทั้ง
    4 ทิศ มี 128 ขุม 


เป็นนรกขุมบริวารที่มีขนาดเล็กกว่ามหานรก และการทัณฑ์ทรมานก็เบาบางกว่า เช่น เป็นนรกอุจจาระเน่า นรกขี้เถ้าร้อน นรกป่าไม้งิ้ว นรกป่าไม้ใบดาบ เป็นต้น สัตว์นรกที่นี่จะมีความทุกข์น้อยกว่าในมหานรก ไฟนรกร้อนแรงน้อยกว่า
และยังพอมีเวลาว่างเว้นจากการทัณฑ์ทรมานบ้างเล็กน้อย

ผู้ที่อยู่ในอุสสทนรก มาจากสัตว์นรกที่ใช้กรรมในมหานรกมาเบาบางแล้ว จึงมาใช้เศษกรรมในอุสสทนรกต่อ เมื่อได้รับทัณฑ์ทรมานอยู่ในอุสสทนรกเป็นระยะเวลายาวนานมาก จนกระทั่งกรรมเบาบาง ก็จะวิ่งหนีทะลุมิติไปเข้าสู่เขตของยมโลก
เพื่อไปรับวินิจฉัยบุญบาปในยมโลกต่อไป

 



_________________________________________________________________________________


 


3) ยมโลก เป็นนรกขุมย่อยๆ อยู่รอบนอกของอุสสทนรก มี 320 ขุม รวมทั้งหมด ยมโลกเป็นนรกขุมย่อยๆ อยู่รอบนอกอุสสทนรก นอกจากจะเป็นสถานที่ลงทัณฑ์ทรมานแล้ว
ยังมีความพิเศษกว่าอุสสทนรกและมหานรก คือ

 


1.เป็นสถานที่วินิจฉัยบุญบาปของสัตว์นรกที่มาจากอุสสทนรกว่า จะให้ไปรับทัณฑ์ทรมานที่นรกขุมไหนต่อ หรือให้ไปเกิดยังภพภูมิต่างๆ เช่น ให้ไปเกิดเป็นมนุษย์
หรือไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน
เปรต อสุรกาย เป็นต้น

2.เป็นสถานที่ตัดสินบุญบาปของผู้ที่ตายจากเมืองมนุษย์ ที่ใจไม่เศร้าหมองแต่ก็ไม่ผ่องใส เมื่อตัดสินแล้วก็จะส่งไปเกิดตามภพภูมิต่างๆ เช่น ให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่
หรือไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก หรือชาวสวรรค์ เป็นต้น


3.หากมีมนุษย์ผู้ใด ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ผู้ตายยังอยู่ในภพภูมิที่ไม่สามารถรับบุญได้ บุญนั้นจะมาคอยอยู่ที่ยมโลกเพื่อรอส่งผล โดยเฉพาะวันพระ ขึ้น 15ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ในยมโลกจะหยุดการลงทัณฑ์ทรมานชั่วขณะหนึ่ง หากมีคนในเมืองมนุษย์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ บุญนั้นจะถึงแก่สัตว์นรกในทันที ทำให้ระยะเวลาที่ต้องได้รับทัณฑ์ทรมานสั้นลง หรืออาจพ้นกรรมไปเกิดเป็นมนุษย์ หรือไปเกิดในภพภูมิอื่น


เราอาจจะถือได้ว่า ยมโลกเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อ ระหว่างภพมนุษย์กับภพภูมิอื่นๆก็ได้ เพราะเป็นที่รองรับสัตว์นรกที่มาจากอุสสทนรก และรองรับกายละเอียดที่ตายจากเมืองมนุษย์ เพื่อมาตัดสินบุญบาปแล้วส่งไปเกิดในภพภูมิต่างๆ

 



                          รวมแล้วขุมนรกมีทั้งหมด 456 ขุม
เป็นภพละเอียดอยู่ลึกลงไปใต้เขาพระสุเมรุ ที่มีเขาตรีกูฏ 3ลูกรองรับอยู่ เกิดขึ้นด้วยกระแสบาปของมนุษย์ เป็นแดนสำหรับลงทัณฑ์ทรมานกายละเอียดของอดีตมนุษย์ที่ทำบาปอกุศล


 


*******************************************




กำลังอัพเดตข้อมูลเพิ่ม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น