วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555



การกินเจ และ มังสวิรัติ

มีหลายๆท่าน อยากจะถือศีลกิน เจ หรือ มังสวิรัติ ในช่วงเทศกาล หรือ ตามโอกาส แต่ยังไม่ได้ทราบข้อมูลในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ทั้งนี้ กระผมจะมาอธิบายรายละเอียดที่สำคัญให้ทราบกันนะครับ ^^

เจ กับ มังสวิรัติ  เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เหมือนกัน
แต่มีความแตกต่างกัน ดังนี้





  
อาหารเจ

- ต้องไม่มีเนื้อสัตว์
- ต้องไม่มีหอม กระเทียม ต้นกุยช่าย ผักชี และเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน ยาสูบต่างๆ ฯลฯ
เพราะถือว่าอาหารดังกล่าวทำให้เกิดกำหนัด หรือกระตุ้นให้เกิดกิเลสต่างๆ เช่น อารมณ์ รสชาติ

วัตถุดิบหลักในอาหารเจ คือ แป้ง เต้าหู้ ซีอิ๊ว ถั่วเหลือง ถั่วต่าง ๆ
และผักนานาชนิด ยกเว้นผักชนิดที่กล่าวมาแล้ว



สำหรับผู้กินเจที่เคร่งครัด
- น้ำมันพืชที่ใช้ต้องบริสุทธิ์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ 
- ไม่ใช้น้ำมันพืชสูตรผสม เช่น น้ำมันรำข้าวปนน้ำมันถั่วเหลือง
- ภาชนะที่ใส่อาหารเจก็ต้องเตรียมไว้เป็นพิเศษ ไม่ใช้ปะปนกับภาชนะที่ใส่เนื้อสัตว์

    ปัจจุบันอาหารเจได้รับการพัฒนารูปแบบขึ้นมาก มีการทำ “หมี่กึน” ที่ทำมาจากแป้งสาลีดัดแปลงให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเนื้อสัตว์ นำมาปรุงอาหาร สำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถตัดขาดจากเนื้อสัตว์ได้

      อาหารเจ จะกินกันในระหว่างเทศกาลกินเจ คือช่วงระหว่าง
วันขึ้น ๑-๙ ค่ำเดือน ๙ (ตามปฏิทินจีนก็ราวเดือนตุลาคม)ระยะเวลาประมาณ ๑๐ วัน หรือกินในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งผู้ที่กินเจเชื่อว่าการกินเจเป็นการได้บุญ

การกินเจ จะส่งผลให้ชีวิตประสบความสุขความเจริญ ทั้งเป็นการต่อชีวิตให้ยืนยาวต่อไป.       





_________________________________________________________________________________




 

 
อาหารมังสวิรัติ

หมายถึง การงดเว้นเนื้อสัตว์ (มังสะ=เนื้อสัตว์ วิรัติ=การงดเว้น) Vegetarian

ผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติจะมีสองกลุ่ม
กลุ่ม 1 ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ แต่ยังคงบริโภคไข่และนม
กลุ่ม 2 ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ รวมทั้งไม่บริโภคไข่และนมด้วยอาหารมังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์เหมือนกับอาหารเจ รวมทั้งเครื่องปรุงรสที่ทำมาจากสัตว์ เช่น กะปิ น้ำปลา

อาหารมังสวิรัติ จะต่างกับอาหารเจตรงที่ ไม่ห้ามบริโภคกระเทียม หัวหอม ต้นกุยช่าย หรือผักที่มีกลิ่นแรงตลอดจนเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน

อาหารมังสวิรัติสามารถบริโภคได้ทั้งปี 
ไม่มีเทศกาลเหมือนอาหารเจ

     ผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติเชื่อว่า จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง เพราะได้งดเนื้อสัตว์ซึ่งมีไขมันและสารอื่น ๆ มากมาย นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ต่อจิตใจเพราะไม่จะเบียดเบียนชีวิตสัตว์
ทั้งหลาย.




_________________________________________________________________________________


* สรุปก็คือ *

การกินเจ คือ งดเนื้อสัตว์ ผักประเภทฉุน แล้วต้องประพฤติศีลร่วมด้วย จึงจะเป็นการถือศีลกินเจที่แท้จริง (จะกินช่วงเทศกาล)

มังสวิรัติ หมายถึง การไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น ( กินได้ตลอด )



ทำไม ? อาหารเจ หรือ มังสวิรัติ บางแห่ง
ถึงมีไข่ไก่อยู่ด้วย

จริงๆแล้วเมื่อเราทานเจแล้วเราไม่ควรทานเพราะไข่เป็นอาหารที่มาจากสัตว์ แต่ที่กระผมได้ทราบข้อมูลมา มีหลายๆท่านที่ทานเจ บอกว่า
ให้ทานได้เฉพาะไข่ไก่เท่านั้น อย่างอื่นไม่เกี่ยว

เพราะว่า ไข่ไก่ที่ขายตามท้องตลาดนั้น
มิได้มีการปฏิสนธิ ( โดยธรรมชาติ แม่ไก่นั้นสามารถออกไข่ได้
โดยไม่ต้องปฏิสนธิหรือผสมพันธุ์ แต่ไข่ก็จะไม่สามารถฟักเป็นตัวได้
ดังเช่น ไข่ไก่ที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ )





 เป็นการอนุโลมเท่านั้น เฉพาะเวลาจำเป็น ไม่สะดวก
อย่างเช่นการเดินทาง

หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับเด็กที่ทานเจ
ซึ่งไข่นั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการเจริญเติบโต
ทั้งทางสมองและร่างกาย.




_________________________________________________________________________________




     แต่หากจะถามว่าการทานแบบไหน ได้ประโยชน์กว่ากัน คงต้องขึ้นอยู่กับ โอกาส ความสะดวกของผู้ทานแล้วหละครับ..ว่าเหมาะสมหรือคู่ควรที่จะทานแบบไหน เพราะบางแห่งหาซื้อของกินลำบากมาก และไม่สามารถเลือกซื้อได้มากนัก


    และส่วนใหญ่อาหารและวัตถุดิบที่ขายกันตามตลาด มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์หรือผักฉุน แทบทั้งสิ้น แต่ถ้าจะถือศีลด้วย ก็ควรทานอาหารเจครับ.

สำหรับผู้ที่ทานเจ หรือ มังสวิรัติ เป็นประจำ ก็ควรทานโปรตีนเสริมด้วยนะครับ จะเป็นจำพวกถั่วเหลือง หรือ อาหารเสริมโปรตีน
แบบไม่มีเนื้อสัตว์ก็ได้ เพราะ หากขาดโปรตีน
เป็นเวลานาน จะทำให้เป็นโรคตัวบวมได้


    จะอย่างไร สำหรับการเลือกทาน อาหารเจ กับ มังสวิรัติ กระผมยืนยันได้ว่าทั้งสองอย่าง มีประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ครับ..แถมยังได้บุญอีกด้วยนะ.






************************************



By kunawut

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น